วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ห้องเรียนในฝันของการศึกษาศตวรรษที่ 21
หมดยุคหันหน้าเข้ากระดาน


ชีวิตในโลกสมัยใหม่เป็นชีวิตที่นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วในระดับเสี้ยววินาที ส่งผลให้ห้องเรียนแบบเดิมถูกตั้งคำถามและจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการเรียนรู้ในยุค Disruptive Technology จึงความพยายามที่จะปฏิวัติการศึกษาไทย อยากเห็นรูปแบบการเรียนการสอนในโรงเรียนทั่วไทยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งในปัจจุบันทิศทางของการวัดผลสัมฤทธิ์ของการศึกษาก็มีแนวโน้มที่เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยตัวชี้วัดไม่ใช่แค่เกรดเฉลี่ยหรือคะแนนในแต่ละรายวิชาอีกต่อไปเพราะการเตรียมผู้เรียนให้พร้อมรับมือกับการใช้ชีวิตและการทำงานในโลกซึ่งเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงเด็กไทยจำเป็นต้องมี ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีนวัตกรรม ในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และ แนวคิดการสร้าง ห้องเรียนในฝัน ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะมาพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของเด็กไทยให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก

ดังนั่นการที่จะสร้างห้องเรียนในฝันของการศึกษาศตวรรษที่21ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 มีคำอธิบาย “ทักษะศตวรรษที่ 21” ที่เป็นแกนหลักที่ครูและนักเรียนต้องเรียนรู้ร่วมกันใน ห้องเรียน ก่อนว่า ทักษะศตวรรษที่ 21 คือ ชุดทักษะที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และปรับตัว เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แนวคิดซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ก็คือ “กรอบการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” ที่เสนอว่า ผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาให้มีทักษะสำคัญ 3 กลุ่ม ได้แก่


ทักษะการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรม (Learning & Innovation Skills) 
ประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การคิดเชิงวิพากษ์และแก้ไขปัญหา การสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
รูปภาพจาก http://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/new-gen/262/


ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี (Information, Media, and Technology Skills) 
ประกอบด้วย การรู้เท่าทันข่าวสารข้อมูล การรู้เท่าทันสื่อ และมีทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศ
รูปภาพจาก http://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/new-gen/262/


ทักษะชีวิต และอาชีพ (Life & Career Skills) 
ประกอบด้วย ความยืดหยุ่นและการปรับตัว การคิดริเริ่มและการกำกับตัวเอง ทักษะสังคมและการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรม การทำงานให้เกิดผลและการรู้รับผิด การเป็นผู้นำและความรับผิดชอบ
รูปภาพจาก http://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/new-gen/262/

สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งประการคือ?
                    
                    "บทบาทหน้าที่ของครู ผู้เรียน และสื่อในศตวรรษที่ 21"
รุปภาพจาก    https://i1.wp.com/www.krupatom.com
ครูต้องพร้อมที่จะปรับตัวและพัฒนาตนเองให้เท่าทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ และต้องมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาทักษะและวิทยาการให้ทันสมัยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เทคนิควิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพทำให้ได้เด็กมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สังคมไทยและสังคมโลกต้องการ และมีบทบาทหน้าที่สำคัญดังนนี้
บทบาทของครูในศตวรรษที่ 21
1.      ให้นักเรียนเรียนรู้จากการทำโครงงาน (Project)
2.      ให้นักเรียนได้เรียนตามหัวข้อที่ต้องการ (On-demand)
3.      ให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามวิธีที่เหมาะสมตรงกับวิธีการเรียนรู้ของตนเอง (Personalized)
4.      ให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยวิธีการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม (Collaboration)
5.      นำห้องเรียนสู่ชุมชนโลกด้วยการเชื่อมโยงกับห้องเรียนของโรงเรียนในต่างประเทศ (Global Community)
6.      ให้นักเรียนได้สืบค้นความรู้จากเว็บไซต์ (Web-based)
7.      มีการประเมินนักเรียนเป็นระยะๆ (Formal evaluation)
8.      มุ่งให้นักเรียนสามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน (Learning for life)

บทบาทของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
รูปภาพจาก   http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201503/17/70151fb5b.jpg
1.      มีอิสระที่จะเลือกสิ่งที่ตนพอใจ แสดงความเห็น และลักษณะเฉพาะ ของตน
2.      ต้องการดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้ตรงตามความพอใจและความต้องการ ของตน
3.      ตรวจสอบหาความจริงเบื้องหลัง
4.      เป็นตัวของตัวเองและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อรวมตัวกันเป็นองค์กร
5.      ความสนุกสนานและการเล่นเป็นส่วนหนึ่งของงาน การเรียนรู้ และชีวิตทางสังคม
6.      การร่วมมือ และความสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของทุกกิจกรรม
7.      ต้องการความเร็วในการสื่อสาร การหาข้อมูล และตอบคำถาม
8.      สร้างนวัตกรรมต่อทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

นอกจากนี้การสร้างทักษาสำคัญให้กับนักเรียนและบทบาทสำคัญแล้วสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือห้องเรียนโดยครูผู้สอนต้องสร้างห้องเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน

สภาพแวดล้อมชวนให้อยากเรียนรู้


ห้องเรียนควรมีสภาพแวดล้อมเชื้อเชิญให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะเรียนรู้ และเอื้อให้ครูกับนักเรียนใกล้ชิดกันมากที่สุด โดยกระทรวงศึกษาได้กำหนดจำนวนที่เหมาะสมของนักเรียนต่อห้องเรียน แบ่งตามระดับการศึกษา ดังนี้
จำนวนของนักเรียนระดับปฐมวัย 30 คนต่อห้องเรียน

จำนวนของนักเรียนระดับประถมศึกษา 30 คนต่อห้องเรียน

จำนวนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา 40 คนต่อห้องเรียน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงคือ ยังมีห้องเรียนอีกมากที่มีจำนวนของนักเรียนเยอะจนแออัด ดังนั้นครูจึงมีหน้าที่ในการสร้างบรรยากาศห้องเรียนที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดต่างๆ ออกมาให้เอื้อต่อการเรียนรู้มากที่สุด เช่นการเว้นทางเดินในห้องเรียนให้โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง เป็นระเบียบ นอกจากนี้ครูยังควรจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการจัดการเรียนรู้อย่างน้อยก็ในระดับพื้นฐานให้แก่นักเรียน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณผนังห้อง ไม่ควรปล่อยไว้ให้โล่งเปล่า แต่ครูสามารถสร้างให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ที่ไม่จำกัดเฉพาะในกระดานดำ
                     
                     ลักษณะการจัดห้องเรียน ตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต


                 ดังนั้น การอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้และความร่วมมือกันของทุกคนจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องกระทำควบคู่กันไป อันจะนำไปสู่โลกแห่งการเรียนรู้ยุคใหม่ ซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด การปรับเปลี่ยนบทบาทของครู รูปแบบการสอนและบริบทของการศึกษา คือก้าวแรกแห่งการพัฒนา ก้าวแรกอาจจะช้า ประสบปัญหาทุลักทุเล แต่เมื่อได้เริ่มแล้วก็จงก้าวต่อไปเรื่อยๆอย่างหนักแน่นและมั่นคง
 เพื่อให้คุณภาพการศึกษาไทยเป็นอย่างที่ใครหลายๆคนวาดฝันไว้ และเพื่อที่ฝันนั้นจะได้ไม่ต้องเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นฝันที่สามารถเกิดขึ้นจริงได้